ในงานประชุมทางวิชาการระดับชาติสาขาสังคมวิทยา ครั้งที่ 4 ในหัวข้อ “แผ่นดินเดียวกันแต่อยู่กันคนละโลก : สังคมวิทยากับจินตนาการเพื่ออนาคต” (เวทีสังคมวิทยาภาคใต้) เมื่อวันที่ 22 – 23 ก.ย. ณ ห้องประชุมวิทยอิสลามนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อ.โชคชัย วงศ์ตานี อาจารย์ประจำศูนย์การจัดการความขัดแย้ง สถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้กล่าวบรรยายกลุ่มย่อย ในหัวข้อการศึกษามาลายาประวัติศาสตร์การเมืองใหม่ของเมืองปัตตานี
อ.โชคชัย วงศ์ตานี ได้นำเสนอคู่มือปฏิญญาอิสลามว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชน (Cairo Declaration of Human Rights) มี 25 มาตรา ปฏิญญาดังกล่าวมีการประชุมกันที่ประเทศอียิปค์ ที่เมืองไคโร มีทั้งสิ้น 25 มาตรา ปฏิญญาอิสลามว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชนนี้ มีการทำเป็นสองภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ และภาษาอาหรับ และต่อมาก็ได้นำมาแปลเป็นภาษาไทย
และได้กล่าวเสริมว่าการที่ได้นำเอาหลักสิทธิมนุษยชนที่ได้มีกำหนดในคัมภีร์อัลกุรอาน และวัจนะของท่านศาสดา เพราะว่ามุสลิมมีความเชื่อใน 2 หลักนี้ มากกว่ารัฐธรรมนูญ และหลักสิทธิมนุษยชน แต่ที่น่าสนใจคือจะทำอย่างไรให้หลักสิทธิมนุษยชนที่ปรากฏ อยู่ใน อัลกุรอาน และวัจนะของท่านศาสดา ถูกกล่าวถึงมากยิ่งขึ้น
คู่มือปฏิญญาอิสลามว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชนนี้ ได้มีการรวบรวมปฏิญญาสากลที่ว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชน 30 มาตรา เข้าไปด้วย เพื่อให้เปรียบเทียบและทำความเข้าใจในหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งของปฏิญญาสากล และปฏิญญาอิสลาม เพราะว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยให้ความน่าเชื่อถือกับหลักการสิทธิมนุษยชนสากลมากนัก จึงต้องนำเอาหลักสิทธิมนุษยชนที่มีกำหนดในคัมภีร์อัลกุรอานนำมาใช้ จะมีการนำเอาปฏิญญาอิสลามว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชนมาแปลเป็นภาษามลายู อักษรญายี เพื่อความเข้าใจของคนในพื้นที่ให้มากขึ้น และจะเกิดประโยชน์อย่างมาก เมื่อมีการนำเอามาใช้พื้นที่แห่งนี้ เพราะว่ามิใช่แค่เพียงหลักการนี้เท่านั้นที่นำเอามาแปลเป็นภาษามลายู แบบฟอร์มหนังสือร้องเรียนต่างๆ ก็มีการเอามาแปลด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อความเข้าใจอันง่ายต่อผู้ที่ทำงานกับชุมชนอย่างผู้นำศาสนา อีหม่าม คอตีบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น